จากกรณีนายมลเทียร จันสุข อายุ 44 ปี และน.ส.วาสนา แสงจันทร์ อายุ 44 ปี สามีภรรยาได้ซื้อหอยกระโจงโดง มาจากบริเวณท่าเทียบเรือประมงแหลมฉบังเก่า ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วนำมาต้มกิน ปรากฏว่าพบไข่มุกสีเหลืองทอง ลักษณะคล้ายไข่มุกเมโล ทำให้ตกใจและรีบถ่ายรูปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพื่อสอบถามผู้มีความรู้ จนกระทั่งเป็นข่าว ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมส่งไปตรวจเพื่อขายแล้ว

ล่าสุดนายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการพบไข่มุกเมโล่ ว่า ตามปกติมุกที่เป็นมุกประดับจะเป็นมุกน้ำเค็มที่เกิดจากการเพาะเลี้ยง มุกธรรมชาติหาได้น้อยมาก การเกิดของมุก จะเอาสิ่งที่เรียกว่านิวเคลียสไปใส่เอาไว้ในหอยลักษณะหอยกาบ แล้วเลี้ยงในกระชัง ขนาดที่ออกมาจะประมาณ 8-10 มิลลิเมตร ไม่น่าเกิน 16 มิลลิเมตร ประเทศไทยเคยเพาะที่ จ.ภูเก็ต แต่น้อยลง เพราะเรื่องความสะอาดของน้ำ

โดยมุกที่ดังและราคาแพง จะอยู่แถว ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ตาฮิติ ช่วงหลังมีการหลอกโดยการเอามุกน้ำจืดซึ่งคุณภาพ ต่ำ มาเพาะเลี้ยง มักเอามาขายบนโลกออนไลน์ บอกว่า เป็นมุกน้ำเค็ม เปิดขึ้นมามีหลากสี ส่วนใหญ่จะมาทำเครื่องสำอางค์ หรือ ย าหลักสิบบาท แต่เมื่อเอามาใส่เปลือกหอยจะกลายเป็นหลักร้อย

นายสุเมธ กล่าวว่า ปกติมุกน้ำเค็ม เลี้ยงในหอยกาบ จะเลี้ยงอย่างคุณภาพประมาณ 1-2 เม็ด แต่มุกน้ำจืด ในกาบจะมีหลายสิบเม็ด เช่น ในพม่า จีน จะมีเป็นชะลอม เข่ง ใช้พลั่วตัก ส่วนมุกน้ำเค็ม ซึ่งเอามาทำเครื่องประดับจะแวววาว มีสีขาว ครีมงาช้าง น้ำตาลอ่อนๆ กับอีกกลุ่มคือ สีดำ ส่วนมุกที่เรียกว่า มุกเมโล จะเกิดจากหอยอีกประเภท คือ หอยงวงช้าง ลักษณะเปลือกหอยคล้ายๆ หอยสังข์ เป็นมุกที่เพาะเลี้ยงไม่ได้ เป็นมุกธรรมชาติ ถ้ามีความสมบูรณ์ ก็จะยิ่งแพงมาก

ไข่มุกที่ชาวบ้านพบ

เคยมีคนเจอ เทียบกับลูกปิงปอง เล็กกว่าหน่อย เท่าๆ เหรียญสิบบาท ส่วนความประกายของมุกจะน้อยกว่า มุกน้ำเค็ม ซึ่งคนที่พบ ที่ จ.ชลบุรี อยากให้ส่งตรวจที่สถาบัน แต่ความเป็นไปได้ ถือว่าสูง เพราะมุกเมโล เกิดจากหอยลักษณะที่ชาวบ้านซื้อมากิน ไซซ์ที่ออกมา รูปทรงเป็นธรรมชาติมาก ค่อนข้างเห็นความแวววาวชัด โดยสถาบันสามารถออกใบรับรองให้ได้ ส่วนมูลค่าเป็นเรื่องความพอใจ แต่เชื่อว่ามีราคามากเพราะเป็นของหายาก เคยพบหลักหมื่น แสน หรือ หลายล้าน อยู่ที่ สีและความแวววาวข้างใน นายสุเมธ กล่าว

ที่มา khaosod