เดวิด อินธี แจ้งความ

เดวิด อินธี แจ้งความ

โลกโซเชี่ยล ได้มี เพจเฟซบุ๊ก เดวิด อินธี ของนักร้องลูกครึ่งไทย-อเมริกันชื่อดัง จากผลงานเพลงอัลบั้ม ฝรั่งบนหลังควาย และเพลง ตั้งใจมาหลอก ได้โพสต์ข้อความเชิงตัดพ้อพร้อมทั้งเตือนภัย กรณีที่ถูกผู้ชายคนหนึ่ง อ้างตัวเป็นสื่อมวลชนจ้างให้ไปเล่นคอนเสิร์ต แต่ปรากฏว่าหลังเสร็จงานแล้ว กลับไม่ยอมจ่ายค่าจ้างตามที่ตกลงและเงียบหายขาดการติดต่อ ซึ่งมีศิลปินอีกหลายราย ที่ถูกจ้างให้ไปเล่นงานเดียวกัน และยังไม่ได้ค่าจ้างเช่นกัน โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า #เตือนเพื่อนๆศิลปิน นาย ม.น ที่ชอบหางานให้นักร้อง อ้างตัวว่าเป็นสื่อมวลชน ติดต่อจ้างงานเสร็จ ไม่จ่ายเงิน สถานการณ์แบบนี้ ยังหลอกกัน #โดนไปเกือบแสน หลังเล่นคอนเสิร์ตเสร็จมานาน ผลัดวันไปเรื่อย เงินไม่ได้ แถมหายเงียบ ไม่ติดต่อ…มันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ผมเท่านั้น มีศิลปินอีกหลายท่าน ที่ถูกนายคนนี้เบี้ยว ไม่ยอมจ่ายค่างาน #ที่ผมมาพูดไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เพราะผมไม่อยากให้คนแบบนี้มีโอกาสทำร้ายใครได้อีก #ฝากเตือนทุกคนด้วยครับ #อย่าให้คนแบบนี้มีจุดยืนในสังคม #เจอกันตอนต่อไป ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีแฟนเพลง และคนในวงการเพลงจำนวนมาก ต่างพากันเข้าไปแสดงความเห็น พร้อมทั้งให้กำลังใจนักร้องรายนี้

โพสต์

วันที่ 20 ก.พ. 2564 ทาง เดวิด อินธี ได้เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามหาตัวคู่กรณีที่ว่าจ้างให้ไปเล่นคอนเสิร์ต แต่ผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายค่าจ้างตามที่ตกลง เนื่องจากไม่สามารถติดต่อได้ และตามข้อมูลทราบว่าผู้ว่าจ้างมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จึงตัดสินใจมาตามหาด้วยตัวเอง เพื่อพบพูดคุยกัน แต่ไร้วี่แววไม่พบตัว เช็คไปยังเจ้าหน้าที่อำเภอ ตามเลขบัตรประชาชนของบุคคลดังกล่าว ปรากฏว่าไม่มีตัวตนแสดงว่าบุคคลดังกล่าว ให้เลขที่บัตรประชาชนไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้เตรียมเดินทางต่อไปที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับว่าจ้างให้ไปแสดงคอนเสิร์ต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณี

โดย เดวิด อินธี เปิดเผยว่า ช่วงปลายปี 2563 ได้รับการติดต่อจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ มาโนชญ์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นสื่อมวลชน ทักมาทางข้อความในเฟซบุ๊ก ว่าให้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ ต.ร่องเคาะ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เบื้องต้นตกลงค่าจ้างตัวเองพร้อมทีมงานนักดนตรี กันที่ 70,000 บาท แต่ไม่มีการทำสัญญาใดๆ จากนั้นทางฝ่ายผู้ว่าจ้างได้เงียบหายไป จนใกล้จะถึงวันงาน ตัวเองจึงได้สอบถามไปและขอให้โอนมัดจำก่อน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ก็ไม่มีการโอนจนตัวเองคิดว่า จะไม่ไปเล่นงานนี้แล้ว

กระทั่งก่อนถึงวันงานเพียงวันเดียว ทางฝ่ายผู้ว่าจ้างได้โอนเงินให้ 10,000 บาท ตัวเองพร้อมทีมงานจึงเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตให้ เพราะกลัวว่าคนในพื้นที่จะคิดว่าเบี้ยวงาน ประกอบกับสถานการณ์ช่วงนี้ ศิลปินนักแสดงนักดนตรีทุกคนก็ลำบาก อยากจะหารายได้และเช็คแล้วส่วนอาการทางภาคเหนือเริ่มคลี่คลายจึงได้ยอมรับงาน ซึ่งมีศิลปินนักแสดงนักร้องนักดนตรีโชว์ก๊อปปี้หลายคนก็ถูกหลอกมาเช่นกัน บางคนก็รับมัดจำล่วงหน้ามาแค่ 2,000 บาท ก๊อปปี้โชว์บางรายก็ถูกให้เหมา Grab ค่าเดินทางมา ก่อน สุดท้ายก็ไม่ได้รับเงินค่าจ้างและก็เหมา Geab กลับ บุคคลดังกล่าวอ้างว่าจะจ่ายให้ภายหลังแต่ก็เงียบ ทุกวันนี้ก๊อปปี้โชว์ถูกทวงค่าโดยสาร ต้องไปหาหยิบยืมจากญาติพี่น้องมาจ่ายค่าโดยสาร

ทั้งนี้เมื่อไปถึงสถานที่จัดงานได้พบกับผู้ว่าจ้าง ที่ขอต่อรองค่าจ้างลดลงจากที่เคยตกลงกันไว้ โดยอ้างว่างานที่จัดเป็นงานการกุศล เพื่อระดมทุนหลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้คนในพื้นที่ นำไปทำสาธารณประโยชน์ ตัวเองจึงลดค่าจ้างเหลือ 60,000 บาท และขอให้ทำสัญญาจ้างงานกันตรงหลังเวที ที่จะขึ้นเล่นคอนเสิร์ตเลยในวันที่ 6 ธ.ค. 63 ซึ่งทางผู้ว่าจ้างลงชื่อในสัญญา จากนั้นเมื่อเล่นคอนเสิร์ตเสร็จแล้ว ทางนายมาโนชญ์ ก็ยังไม่จ่ายค่าจ้างให้ อ้างว่าจะโอนให้หลังจัดงานเสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ด้วยความเชื่อใจเพราะเห็นว่าเป็นสื่อมวลชน จึงยินยอมและเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่านายมาโนชญ์กลับนิ่งเฉย และไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้างที่คงค้างอีก 50,000 บาท แม้ว่าจะทวงถามไปหลายครั้ง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 63 โดยอ้างสารพัดเหตุผล และขาดการติดต่อไปในที่สุด จนถึงปัจจุบันเดือนกุมภาพันธ์ 64 เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนแล้ว

ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลทำให้ทราบด้วยว่า นอกจากตัวเองแล้ว ยังมีศิลปินที่มีชื่อทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่นอีกหลายราย ที่นายมาโนชญ์ ว่าจ้างให้ไปเล่นคอนเสิร์ตในงานเดียวกับตัวเองแต่คนละวัน ถูกกระทำในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ และได้รับความเสียหายจากการไม่ได้รับค่าจ้าง ทำให้ตัวเองจึงจำเป็นต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง และเพื่อนร่วมอาชีพ ด้วยการโพสต์เป็นอุทาหรณ์เตือนภัย และจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายมาโนชญ์ จนถึงที่สุด

ที่มา chiangmainews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ